top of page

ดราม่ายูทูปเบอร์ ถ่ายวิดิโอติดภาพชาวต่างชาติบนรถไฟ ทำได้หรือไม่ตามหลัก Privacy

อัปเดตเมื่อ 17 ก.ย.

จากกรณีที่ ยูทูปเบอร์สายท่องเที่ยวท่านหนึ่ง โพสต์คลิปวิดิโอขณะกำลังเดินไปยังที่นั่งบนรถไฟเพื่อเดินทางไปต่างจังหวัด โดยมีช่วงหนึ่งในคลิปวิดิโอ ขณะที่กำลังเดินไปยังที่นั่ง ตัวยูทูปเบอร์และเพื่อนร่วมทริปได้ถ่ายคลิปติดนักท่องเที่ยวต่างชาติ พร้อมครอบครัว ซึ่งชายชาวต่างชาติดังกล่าวได้แจ้งว่าไม่ขอให้ถ่ายทำตัวเขา และได้มีการโต้เถียงกัน ซึ่งตัวยูทูปเบอร์เองก็ไม่ยอมและยืนยันว่า การถ่ายทำบนรถไฟเป็นพื้นที่ “สาธารณะ” และเขาก็ถ่ายได้ตามสิทธิ ตามคำนี้ “ ไม่ได้ถ่าย รถไฟเป็นพื้นที่สาธารณะ ตนมีสิทธิถ่ายได้ ” นอกจากนั้นยังได้โพสต์วิดิโอดังกล่าวลงบนสื่อสังคมออนไลน์อีก ถึงแม้จะเบลอหน้าชาวต่างชาติแล้ว แล้วจริง ๆ ทั้งหมดนี้เขาทำได้จริงหรือไม่ เราจะอธิบายให้ฟัง


การถ่ายภาพ หรือถ่ายวิดิโอทำได้หรือไม่

ก่อนอื่นเราต้องทราบก่อนว่ายูทูปเบอร์นั้น ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ถือว่าเป็น “ผู้ควบคุมข้อมูล” ซึ่งมีหน้าที่ตามกฎหมายไม่ว่าจะเก็บ ใช้ หรือเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว ก็ต้องทำการป้องกันข้อมูลเหล่า นั้นไว้ ดังนั้นกรณีนี้ยูทูปเบอร์รายนี้มีการถ่ายทำซึ่งทำได้ แต่ในกรณีนี้มีผู้ปฏิเสธในการถ่ายทำแล้ว ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สาธารณะหรือไม่ ยูทูปเบอร์ ในฐานะ “ผู้ควบคุมข้อมูล” อ้างอิงตามมาตรา 32  เจ้าของข้อมูลมีสิทธิปฏิเสธในการเก็บข้อมูลแล้ว ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ไม่ว่าเป็นใครต้องการ ผู้ถ่ายทำการถ่ายดังกล่าวต้องนำในส่วนภาพของบุคคลนั้นออก ซึ่งตามมาตรา 19 และมาตรา 24 ผู้ควบคุมข้อมูลจะทำการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลไม่ได้หากเจ้าของข้อมูลไม่ได้ให้ความยินยอม

นอกจากนั้นแล้วที่ร้ายกว่านั้นคือการเผยแพร่คลิปดังกล่าวออกมาด้วยนั้นส่งผลให้ มาตราอื่น ๆ ทำงาน เช่น มาตรา 26 ที่ห้ามมิให้ผู้ควบคุมข้อมูลเก็บรวบรวมข้อมูล โดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล โดยทั่วไปการถ่ายคลิปวิดิโอติดชาวต่างชาติโดยไม่ได้ตั้งใจอาจไม่เข้าข่ายตามมาตรานี้โดยตรง แต่ในคลิปวิดิโอที่ถูกนำมาเผยแพร่มีช่วงที่ยูทูปเบอร์ได้แสดงท่าทีไม่พอใจ พร้อมทั้งการเผยแพร่ดังกล่าวยังเป็นการล่อเป้าให้เจ้าของข้อมูลถูกตำหนิ อ้างอิงจากการโปรยเนื้อหาบนสื่อสังคมออนไลน์ของผู้เขียนจึงเข่าข่ายตามความในมาตรานี้ นอกจากนั้นแล้วมาตรา 21 และ 23  ก็มีผลบังคับใช้เนื่องจากการที่ยูทูปเบอร์ได้มีการตอบกลับชาวต่างชาติไปว่า “ ไม่ได้ถ่าย ” แต่ยังนำคลิปมาเผยแพร่แม้จะเบลอใบหน้า แต่ยังถ่ายติดครอบครัวของเจ้าของข้อมูล เป็นการใช้ข้อมูลที่ขัดกับวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งกับเจ้าของข้อมูลผู้ควบคุมข้อมูลต้องแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบในขณะเก็บรวบรวมข้อมูล กรณีนี้ผู้ควบคุมข้อมูลไม่ได้แจ้งและไม่ได้จำกัดการเก็บข้อมูลตามความจำเป็นตามความประสงค์ของเจ้าของข้อมูล นอกจากนี้มาตรา 20 ก็มีผลบังคับใช้เนื่องจากในคลิปวิดิโอมีช่วงที่ถ่ายติดใบหน้าลูกสาวของชาวต่างชาติ และเขาได้ปฏิเสธไม่ให้ถ่ายเป็นการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นผู้เยาว์ซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะ ซึ่งต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองในการเก็บข้อมูลอีกทั้งยังเป็นการกระทำที่มีความผิดตาม COPPA ซึ่งเป็นกฎหมายที่มุ่งคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี อีกประการ


พื้นที่สาธารณะ  

พื้นที่สาธารณะเป็นสถานที่ที่ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงหรือใช้ประโยชน์ได้โดยเสรี ไม่จำกัดว่าเป็นบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่มีข้อสังเกตว่าที่นั่งและพื้นที่ในตู้โดยสารไม่ใช่พื้นที่สาธารณะโดยตรง แต่เป็นทรัพย์สินของรัฐที่อนุญาตให้ประชาชนใช้บริการตามสัญญาซื้อบัตรโดยสารเพื่อให้สามารถใช้สิทธิในที่นั่งเพื่อการเดินทางได้ หรือก็คือพื้นที่กึ่งสาธารณะ แต่อย่างไรก็ตามพื้นที่สาธารณะไม่ได้แปลว่า ไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) กฎหมายยังคงมีผลบังคับใช้อยู่


กรณีในลักษณะเดียวกันในต่างประเทศ

Tiktok Star ถูกกล่าวหาว่าแอบถ่ายวิดิโอขณะพยายามจีบผู้หญิงตามชายหาด

เจ้าหน้าที่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย กำลังสอบสวน Tiktok star รายหนึ่งซึ่งถูกพบว่า ใช้แว่นตาอัจฉริยะที่มีฟังก์ชันบันทึกวิดิโอเพื่อถ่ายคลิปขณะเข้าไปคุยกับผู้หญิงในบริเวณซิดนีย์และเมลเบิร์น โดยฝ่ายหญิงไม่รู้ว่ากำลังถูกบันทึกวิดิโออยู่ โดยมีการนำคลิปวิดิโอดังกล่าวไปตัดต่อและเผยแพร่ในช่องทาง Tiktok ซึ่งเป็นการลงคอนเทนต์ในลักษณะจีบผู้หญิง ภายหลังผู้เสียหายบางรายได้ออกมาเรียกร้องให้ลบคลิป แต่กลับถูกเพิกเฉย ซึ่งกรณีนี้ยังไม่มีการลงโทษ แต่การสอบสวนภายใต้กฎหมายของรัฐนิวเซาท์เวลส์ มีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี สำหรับการแอบถ่ายหรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต

Disney ถูกปรับ 10 ล้านดอลลาร์ หลังเก็บข้อมูลเด็กบน Youtube โดยไม่ได้รับอนุญาต

คณะกรรมการการค้าแห่งสหรัฐอเมริกา ( FTC ) ได้ประกาศว่า Disney และบริษัทที่เกี่ยวข้องได้เก็บข้อมูลเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง จุดเริ่มต้นมาจากการตรวจสอบของ FTC ที่พบว่าช่อง YouTube ของ Disney ใช้การตั้งค่าป้ายกำกับวิดีโอในระดับช่องแบบค่าเริ่มต้น ซึ่งทำให้วิดีโอหลายร้อยรายการไม่ได้รับการระบุว่าเป็นเนื้อหาสำหรับเด็ก  ซึ่งข้อมูลที่ถูกเก็บ ได้แก่ รหัสประจำอุปกรณ์ (Device IDs) และ ข้อมูลการใช้งาน ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย COPPA 


ยูทูปเบอร์ และอินฟลูเอนเซอร์ ต้องทำความเข้าใจใหม่

การที่คุณเป็น  Influencer, KOL หรือยูทูปเบอร์ ก็ตามท่านต้องเข้าใจว่าท่านไม่สามารถถ่ายทำอะไรก็ได้ตามใจ เมื่อท่านกำลังถ่ายทำรายการของท่านไม่ว่าจะช่องทางใดท่านก็ต้องรับผิดชอบต่อการถ่ายทำการโพสต์นั้น เพื่อไม่ให้ผิดต่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยทุกครั้งที่ท่านถ่ายทำท่านควรจำ

  • ขอความยินยอม ก่อนถ่ายคลิปวิดิโอหรือรูปภาพบุคคลอื่น

  • หากไม่ได้รับความยินยอม ไม่ควรถ่ายคลิปวิดิโอหรือรูปภาพ

  • ไม่ควรนำข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นมาใช้/เผยแพร่โดยไม่ได้รับความยินยอม

  • หากมีความจำเป็นต้องเผยแพร่ ควรตัดต่อ ลบเสียง เบลอภาพ หรือทำให้ไม่สามารถระบุตัวตนได้อย่างเด็ดขาด


อย่าลืมมาเรียนคลาสฟรีกับทาง Epsilon Legal สำหรับ Influencer KOL หรือ…




 
 
 

ความคิดเห็น


bottom of page